วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

โรคผิวหนังในสุนัข และการรักษา

ขี้เรื้อนหรือโรคผิวหนังในสุนัข มักเป็นปัญหาที่เกิดจากเชื้อรา แบคที่เรีย

 

โรคผิวหนังและการรักษา
โรคผิวหนังที่สุนัขเป็นกันบ่อย คือโรคผิวหนังที่เกิดการอักเสบ
ลักษณะอาการที่สำคัญ คือมีเม็ดตุ่มขึ้นที่ผิวหนัง
น้ำเหลืองไหลเยิ้ม ต่อมาจะแห้ง
แล้วแตกเป็นสะเก็ดและรังแค หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “เอ็คซีม่า” (Eczema)

 เอ็คซีม่าในสุนัขแบ่งออกเป็น 5 ชนิดด้วยกัน
1. แบบเฉียบพลัน
2. แบบแห้ง
3. แบบภูมิแพ้
4. เอ็คซีม่าที่ถุงอัณฑะ และที่นิ้วเท้าและง่ามนิ้ว


1. เอ็คซีม่าแบบเฉียบพลัน
เกิดจากการให้อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตที่อัตราสูงมากๆ ตลอดเวลา หรือพูดให้เข้าใจง่ายก็คือ การให้อาหารที่มีแป้งมากเกินไปนั่นเอง ถ้าให้อาหารจำพวกแป้งมากเกินไป ภายใน 1 เดือน ก็จะเกิดเอ็คซีม่าแบบเฉียบพลันได้ หรืออาจจะเกิดจากที่มีเห็บและเหาที่ผิวหนังมากมาย ทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวหนังจึงอักเสบ

อาการของเอ็คซีม่าแบบเฉียบพลัน
สุนัขจะกัดเล็มและเกาผิวหนังอย่างแรงและบ่อย  ผิวหนังที่เป็นเอ็คซีม่าจะเป็นแผลเยิ้มจำกัดบริเวณมีสะเก็ด ผิวหนังหลุดร่วงออก บางทีพบตัวเห็บเกาะแน่นเป็นกลุ่มๆ หรือเหาวิ่งไปมาอยู่มากมาย

การรักษา
ควรลดอาหารจำพวกแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตลงมา และให้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการตามที่สุนัขต้องการ ควรตัดขนบริเวณที่อักเสบให้สั้นแล้วล้างแผลดด้วยไฮโดรเยน มีขายตามร้านขายยาแผนปัจจุบัน แล้วให้ยาที่ช่วยลดอาการอักเสบจำพวกคอร์ติโซน ซึ่งเป็นสเตียรอยด์หรือฮฮร์โมนอย่างหนึ่ง โดยการฉีดหรือกินติดต่อกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง นอกจากนี้ยังต้องกำจัดเห็บเหา ซึ่งเป็นสาเหตุโน้มนำของโรคด้วยแชมพูกำจัดเห็บเหา ควรอาบน้ำให้สุนัขอย่างน้อย
สัปดาห์ละครั้ง หลังอาบน้ำควรโรยด้วยแป้งฝุ่นกำจัดเห็บเหา ตามตัวและอุ้งเท้า เพื่อป้องกันไม่ให้มาเกาะซ้ำอีก


2. เอ็คซีม่าแบบแห้ง
โรคผิวหนังชนิดนี้ มีลักษณะเฉพาะที่ยากแก่การรักษาให้หายขาดในระยะเวลาอันสั้น และยังอาจสับสนกับโรคผิวหนังชนิดอื่น บางครั้งทำให้การวินิจฉัยโรคคลาดเคลื่อนได้

สาเหตุ :  ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาจจะเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ โดยเฉพาะสุนัขที่มีสายเลือดแท้ต่างๆ การให้อาหารจำพวกแป้งมากๆ ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคก็ได้

อาการ : สุนัขจะเกาบริเวณเอ็คซีม่าตลอดเวลา ผิวหนังจะแห้งเป็นสะเก็ด ขนจะร่วงเป็นวงกว้าง เช่น บริเวณคอ กลางหลัง เป็นต้น ผิวหนังจะแดง เพราะมีเลือดมาเลี้ยงมากกว่าปกติ

การรักษา เนื่องจากลักษณะอาการของโรคนี้ อาจทำให้สับสนกับโรคผิวหนังอื่นๆ ก่อนการรักษาควรให้สัตวแพทย์ขูดผิวหนัง เพื่อตรวจหาสาเหตุการคันให้แน่ใจเสียก่อน เพราะการคันอาจจะเกิดจากตัวไรขี้เรื้อนสุนัข หรือมีเชื้อรา

การรักษา
ประกอบด้วยการใช้ยาต้านการอักเสบจำพวกสเตียรอยด์ โดยการฉีดหรือให้ลูกสุนัขกินติดต่อกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่การใช้ยากลุ่มนี้แม้จะมีประโยชน์มาก หากใช้ไม่ถูกต้องก็อาจจะเกิดโทษได้ เช่น ถ้าให้ในระยะเวลานานๆ  สัตว์จะมีภาวะไตวายเกิดขึ้น การใช้สเตียรอยด์จึงควรอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดของสัตวแพทย์เป็นดีที่สุด นอกจากนี้ ผู้เลี้ยงควรเปลี่ยนอาหารให้มีคุณค่าทางโภชนาการร่วมด้วย



3. เอ็คซีม่าแบบภูมิแพ้
สาเหตุ :  เกิดจากสารบางชนิดที่ทำให้เกิดอาการแพ้  ส่วนมากมักจะพบว่าสุนัขมีอาการแพ้
หลังจากการวิ่งเล่นในสวนหรือสนามหญ้าที่รกรุงรัง และเกิดอาการแพ้เนื่องจากสัมผัสกับฟางข้าว เกสรดอกไม้ หรือละอองสารเคมี

อาการ :  ปรากฏเม็ดตุ่มแดงขึ้นตามผิวหนังโดยทันที โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง ขาหนีบ
สัตว์ที่ป่วยแสดงอาการคันและเกาอย่างแรงตลอดเวลา

การรักษา
เปลี่ยนสถานที่นอนของสุนัขโดยทันที วัสดุที่ใช้รองพื้นที่นอนต้องเปลี่ยนทุกวัน อย่าให้ชื้นแฉะ
ระวังอย่าให้สุนัขกลับเข้าไปเล่นในพงหญ้าหรือกองฟางอีก

ยาที่ใช้ได้ผลดี คือกลุ่มยาคอร์ติโซน เช่น เด็กซ่าเมธาโซนครีมขององค์การเภสัชกรรม
หรือเฟร็ดนิโซโลนครีมขององค์การเภสัชกรรม ร่วมกับยาแก้แพ้ เช่น ยาคลอเฟนิรามีน มาลีเอต
หรือที่เรียกกันจนติดปากว่ายาคลอเฟ ราคาก็ถูกแสนถูก อาจจะ 4 เม็ด 1 บาท ให้กินครั้งละเม็ด วันละสองครั้ง ยานี้มีขายตามร้านขายยาแผนปัจจุบันทั่วไป อาการแพ้ก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว



4. เอ็คซีม่าที่ถุงอัณฑะและที่ง่ามนิ้วเท้า
ลักษณะอาการอักเสบคล้ายคลึงกับเอ็คซีม่าแบบเฉียบพลัน คือผิวหนังถุงอัณฑะอักเสบ มีน้ำเหลืองไหลเยิ้ม

สาเหตุและการรักษา
เช่นเดียวกับการรักษาโรคเอ็คซีม่าแบบเฉียบพลัน เอ็คซีม่าง่ามนิ้วเท้า เป็นการอักเสบของหนังระหว่างนิ้วเท้าหรือง่ามนิ้ว สาเหตุส่วนใหญ่มาจากตัวไรที่เป็นสาเหตุของโรคเรื้อน และการได้รับอาหารจำพวกแป้งมากๆ

การรักษา เช่นเดียวกับการรักษาโรคเอ็คซีม่าอื่นๆ
คือใช้ยาต้านการอักเสบ และแก้ไขอาหารให้เหมาะสมถูกต้องตามหลักโภชนาการ



โรคผิวหนังชนิดผื่นคัน (Eczema) เอ็คซีม่า หากจะแบ่งกว้างๆ  คงแบ่งออกเป็น 2 ชนิด
ชนิดแรก ได้แก่ ชนิดเฉียบพลัน หรือชนิดเปื่อย
ส่วนอีกชนิดหนึ่งได้แก่ ชนิดแห้ง

ชนิดเปื่อย ผื่นจะปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว ขนจะร่วงและผิวหนังที่ปราศจากขนจะชุ่มเป็นมันเยิ้ม
และคันอย่างสุดขีด เอ็คซีม่าชนิดแห้งมักจะคล้ายกับหิด เอ็คซีม่าชนิดนี้เมื่อเป็นตามผิวหนังแล้วขนจะร่วงหลุดไป แล้วจะคันอย่างมาก ผิวหนังจะแห้งเป็นสะเก็ดลุกลามไปเรื่อย โรคผิวหนังทั้งสองชนิดชอบเกิดในฤดูร้อนมากกว่าฤดูหนาว


เอ็คซีม่าชนิดเปื่อย ชอบเกิดในสุนัขขนยาว
ส่วนเอ็คซีม่าชนิดแห้งชอบเกิดกับสุนัขพันธุ์ขนหยาบ

ส่วนใหญ่จะเกิดหลังและไหล่

ชนิดเปื่อยชนิดหนึ่งของโรคนี้จะพบเห็น มีสีน้ำตาลรอบๆ รูหูและระหว่างนิ้วเท้า เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการตรวจพบว่าโรคเอ็คซีม่าเกิดจากผิวหนังดูดเอาพิษจากอาหารชนิดที่มีโปรตีนบางอย่างซึ่งเป็นพิษ สุนัขบางตัวซึ่งไม่ถูกโรคกันและได้ดูดพิษไว้มาก เท่าที่พบและได้ทดลองมา
โปรตีนบางอย่างที่ได้มาจากข้าวและโปรตีนในปลาบางชนิด  คือกินแล้วทำให้ไม่สบาย

การแพ้นี้เป็นเฉพาะสุนัขบางตัวเท่านั้น บ้างก็ว่าการให้อาหารมากเกินไป ให้เนื้อกินมากเกินไป
หรือให้อาหารจำพวกแป้งมากเกินไป และการขาดวิตามินหรือเกลือแร่ แต่ความคิดเหล่านี้กำลังเปลี่ยนไปเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ผลงานวิจัยและจากประสบการณ์ในทางปฏิบัติแสดงให้เห็นว่าโรคเอ็คซีม่าเกือบทุกชนิดเกิดจากการติดเชื้อของผิวหนัง มีการยืนยันอย่างแน่ชัดว่าโรคเอ็คซีม่าที่พบเห็นบ่อยๆ เกิดจากสปอร์หรือส่วนสำหรับขยายพันธุ์ของเชื้อรา ที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า อัลเทอร์นาเรียเทนิวอีส (Alternaria tenuis) ซึ่งอาศัยในใบไม้หญ้าที่ตายแล้ว เชื้อราชนิดนี้มีขนาดเล็กมาก จนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เหมือนกับเชื้อราโดยทั่วไปที่ชอบเจริญงอกงามได้ในอากาศที่ร้อนและชื้น

การรักษาทั่วไป ในระยะแรกให้ตัดรายการอาหารประเภทแป้งออกไป
ให้อาหารประเภทโปรตีนเพิ่มขึ้น 

ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่ใช้ได้ดี สำหรับกรณีขี้เรือนเปียก คือ dry-ec oil

และสำหรับชนิดเปียก ควรใช้ เป็น wet-ec lotion