วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เสริมสร้างลูกสุนัขให้แข็งแรงด้วยโภชนาการที่สมบูรณ์ ตอนที่ 1


     ไม่ว่าคุณจะหลงไหลสูนัขล่าเนื้อ หมาป่าพันธุ์ไอริชตัวยักษ์ หรือบรัสเซลล์กริฟฟอนตัวจิ๋ว ก็แล้วแต่ โลกนี้มีสุนัขมากมายหลายพันธุ์ให้คุณได้เลือกตามชอบใจ ความหลากหลายสายพันธุ์นี้เอง ที่ทำให้สุนัขน่าสนใจ แต่ก็ทำให้การเลี้ยงเขาให้แข็งแรงสมบูรณ์ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นเดียวกัน ขนาดของแต่ละสายพันธุ์จะเป็นตัวบอกถึงระดับการเผาผลาญอาหาร อัตราการเติบโต และอายุขัยที่ต่างกัน สุนัขชิวาวา หนัก 5 ปอนด์ กับนิวฟาวแลนด์ หนัก 150 ปอนด์ ต่างก็มีพัฒนาการและเติบโตเต็มที่ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน แต่แน่นอนว่านิวฟาวแลนด์ ที่ร่างกายใหญ่กว่า 30 เท่าย่อมมีอัตราการเติบโต (น้ำหนักตัวต่อปอนด์ต่อเดือน) และเนื้อเยื่อที่มากกว่าชิวาวา ตัวจ้ัอยอยู่มากโข ดังนั้นในการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยง คุณต้องคำนึงถึงความแตกต่างที่ว่านี้ด้วย วัยเด็กเป็นช่วงที่เนื้อเยื่อร่างกายของสุนัขทุกสายพันธุ์เติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเจ้าของหรือผู้เพาะพันธุ์ก็ต้องไม่ลืมวางแผนการให้อาหารสัตว์ให้ดี เพื่อให้เหมาะสมกับอัตราการใช้พลังงานและสารอาหารที่จำเป็นของสัตว์ ซึ่งจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่าลืมว่าลูกสุนัขก็ต้องการสารอาหารเหมือนสุนัขที่โตแล้ว ต่างกันที่ปริมาณเท่านั่นเอง


สุนัขพันธุ์เล็ก

      จากการสังเกตคุณคงพอทราบว่าสุนัขพันธุ์เล็กจิ๋วทั้งหลาย ต้องการพลังงานต่อน้ำหนักมากกว่า 125 พันธุ์ใหญ่ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะอัตราการเผาผลาญอาหารจะสัมพันธ์กับพื้นผิวร่างกายทั้งหมด และเนื่องจากสุนัขพันธุ์เล็กจะมีสัดส่วนพื้นผิวร่างกายเทียบกับน้ำหนักตัวที่สูงกว่าสุนัขพันธุ์ใหญ่ จึงต้องการพลังงานต่อน้ำหนักตัว (ปอนด์หรือกิโลกรัม) ที่มากกว่าด้วย นอกจากนี้สุนัขพันธุ์เล็ก จะมีกระเพาะเล็กกว่า จึงรับอาหารได้ในปริมาณจำกัด อาหารสุนัขที่เหมาะกับสายพันธุ์นี้ จึงควรมีแคลอรี่สูงกว่า และระดับ "ความเข้มข้นของสารอาหาร" มากกว่า ความสามารถในการย่อยได้มากก็เป็นปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม จึงควรเตรียมอาหารที่มีสารอาหารเหมาะสม โดยแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ รูปร่างและขนาดของเม็ดอาหาร ก็ควรเหมาะกับขนาดปากเล็กๆ ของเขา เพื่อช่วยให้เคี้ยวง่าย

            ข้อมูลเี่กี่ยวกับสารอาหารและสุขภาพของสุนัขพันธุ์เล็กและใหญ่ มักจะหาอ่านได้ไม่ยาก แต่ถ้าเป็นพันธุ์ขนาดกลาง เช่น บีเกิ้ล สแปเนียล และเฮิร์ดดิ้งแล้วล่ะก็ คุณอาจต้องคอยสังเกตเอาว่าสิ่งที่เขาต้องการน่าจะ "อยู่กึ่งกลาง" แต่ก็ไม่ดีนัก เพราะบางครั้งปัญหาเกี่ยวกับสารอาหารของสุนัขพันธุ์ใหญ่ เช่น ปัญหาเกี่ยวกับพัฒนาการทางกระดูก ก็อาจเกิดกับสุนัขขนาดกลางได้เป็นบางครั้ง สุนัขขนาดกลางจะต้องการพลังงานในระดับปานกลาง ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ถ้าเป็นสุนัขที่กระฉับกระเฉงว่องไง ก็ควรให้อาหารที่มีแคลอรี่เ้ข้มข้นปากกลาง เม็ดอาหารก็ควรใหญ่ปานกลาง ทั้งนักโภชนการและสัตวแพทย์ได้กำหนดระดับโภชนการและการดูแลสุขภาพให้สุนัขขนาดกลาง รวมทั้งอาหารที่มีสารอาหารเหมาะสมไว้ให้แล้ว แต่ในบางครั้งก็ต้องพิจารณาความต้องการของสุนัขพันธุ์เล็กหรือพันธุ์ใหญ่ประกอบไปด้วย เพราะสุนัขขนาดกลางนั้น "อยู่ตรงกลาง" จริงๆ

              คราวหน้าเราจะมาต่อโภชนาการของสุนัขพันธุ์ใหญ่กันนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น