วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

การฝึกลูกสุนัขเบื้องต้น ตอน 4

รอ

     เวลาเราสั่งให้ "รอ" ควรใช้ระดับเสียงที่แตกต่างออกไป ในขณะที่สั่งให้นั่ง หมอบ และเดินชิด ให้ใช้เสียงที่หนักแน่น มีอำนาจ แจ่มใส ส่วนคำสั่งให้นั่ง  เสียงควรให้ยาวและช้า

     ให้ลูกสุนัขของคุณนั่งอยู่ข้างตัวคุณ ยื่นมือขวาให้อยู่หน้าเขา โดยหันฝ่ามือเข้าหาลูกสุนัข อย่าให้ลูกสุนัขตกใจ เพราะการให้สัญญาณด้วยมือแบบทันทีทันใด ควรจะเคลื่อนที่แบบค่อยๆ และสม่ำเสมอ แต่ก็ยังให้มือของคุณอยู่หน้าเขา พร้อมพูดว่า "รอ" ในขณะเดียวกัน ก็เดินไปยืนอยู่หน้าลูกสุนัขอย่างเงียบๆ จับปลอกคอชนิดโซ่ให้แน่น ในกรณีที่ลูกสุนัขไม่ยอมรอ แต่จะไปที่อื่น ถ้าเขาลุกขึ้น ให้พูดว่า "หยุด นั่งรอ" ในขณะที่ทำ ให้เขากลับไปอยู่ในท่ารอ จุดประสงค์ในขณะนี้ คือ ทำให้ลูกสุนัขอยู่ในท่ารอ จุดประสงค์ในขณะนี้คือทำให้ลูกสุนัขอยู่ในท่ารอ นานราว 5 - 10 นาที นานพอที่คุณจะเดินจากเขาไป แล้วยืนอยู่ตรงหน้าเขาเป็นเวลา 2 - 3 วินาที และกลับมาอยู่ข้างๆ เขา ถ้าเขาสามารถทำตามคำสั่งได้ดี คุณควรที่จะกล่าวคำชมเขา ให้ค่อยๆ เพิ่มเวลาที่จะทำให้ลูกสุนัขอยู่ในท่า "รอ" เมื่อเขาอยู่ในท่า "รอ" อย่างคงเส้นคงวา โดยไม่ต้องอาศัยวิธีกายภาพจากคุณ ให้เริ่มอยู่ห่างจากลูกสุนัขมากขึ้น โดยก้าวถอยหลังให้ยาวเต็มที่ ในแต่ละครั้งให้ใช้สัญญาณมือพร้อมกับออกคำสั่งต่อไป เพื่อที่ลูกสุนัขของคุณจะเรียนรู้ทั้งสองสิ่งร่วมกัน หรือจะเป็นเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็รู้ว่าต้อง "รอ" อย่าฝึกให้เร็วจนเกินไป หากเขาทำได้สำเร็จ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยแค่ไหน ก็ต้องกล่าวชมทุกครั้ง


ข้อแนะนำในการฝึกลูกสุนัข

     ทำตามกำหนดการ ให้กำหนดการเวลาในการฝึกลูกสุนัข และทำตามเวลาที่กำหนดแน่นอนวันละ 2 ครั้ง เวลาในการฝึกควรให้สั้น เร่ิมจากการฝึกครั้งละ 5 - 10 นาที แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาการฝึกให้นานขึ้น ต้องสม่ำเสมอเวลาออกคำสั่งเดียวกัน ให้ใช้คำและน้ำเสียงเดียวกันทุกครั้ง หากคุณพูดว่า "มานี่ไข่ต้ม" ด้วยน้ำเสียงที่สดใส และเข้าใจในระหว่างการฝึก ในการฝึกครั้งต่อไป อย่าเปลี่ยนเป็น "มานี่ไข่ต้ม" ด้วยน้ำเสียงที่แสดงอำนาจ ในการฝึกครั้งต่อไป เพราะไข่ต้มจะเกิดความสับสนและอาจจะไม่ตอบสนองในสิ่งที่คุณต้องการ  น้ำเสียงต้องมั่นคง ลูกสุนัขรู้ว่าเราไม่ได้ทำแบบเล่นๆ ให้ทำแบบเอาจริงเอาจัง เพื่อให้เขารู้ว่าเขาต้องทำแบบเอาจริงเอาจังเช่นเดียวกัน อย่าให้อาการขี้เล่น หรือนัยน์ตาสีน้ำตาลที่เศร้าสร้อย ทำให้คุณใจอ่อน ต้องอดทนหากลูกสุนัขของคุณไม่เป็นนักเรียนที่ปราดเปรื่องในตอนต้น ก็อย่าผิดหวังในตัวเขา ลูกสุนัขจะรู้ว่าคุณโกรธหรือขาดความอดทน ซึ่งจะทำให้เขากังวล เขาจะรู้สึกกระวนกระวายเกี่ยวกับการฝึก และสิ่งนั้นจะทำให้คุณและลูกสุนัขยุ่งยากมากขึ้น ถ้ารู้สึกหงุดหงิด ควรจะเลื่อนการฝึกออกไป

     ต้องตอบสนองทันทีให้ใช้คำยกย่องหรือทำการแก้ไขโดยทันที ที่ลูกสุนัขของคุณตอบสนองต่อคำสั่ง หากเขามาตามคำสั่ง ให้ชมเขาอย่างเต็มที่ในทันทีที่เขาไปหาคุณ หรือแม้แต่เข้าไปหาโดยห่างจากจุดหมายถึง 2 ฟุต และต้องกระตุกสายจูงเล็กน้อย เพื่อให้เขาทำตาม การแก้ไข ให้ใช้คำสั้นและห้วนว่า "อย่า" อย่าตีลูกสุนัขที่ผ่านการฝึกมาดี ควรที่จะตอบสนอง เพราะเขาอยากจะทำให้เจ้านายของเขาพอใจ ไม่ใช่เป็นเพราะเขากลัวนายของเขา

     ให้คงไว้ซึ่งอัธยาศัยที่ดีให้การสิ้นสุดการฝึกแบบมีความสุขเสมอ เพื่อที่ทั้งคุณและลูกสุนัขของคุณจะรู้สึกพอใจในตัวคุณและพอใจซึ่งกันและกัน การที่จะฝึกให้ประสบความสำเร็จ ลูกสุนัขของคุณต้องมีท่าทีในทางบวกเกี่ยวกับการฝึก และ่่ท่าทีของเขาย่อมขึ้นอยู่กับคุณโดยสิ้นเชิง

     เป็นไงกันบ้างค่ะ การฝึกลูกสุนัขไม่ยากอย่างที่คิด ถ้าเราฝึกเขาด้วยความเอาใจใส่ ฝึกด้วยความรัก และต้องจริงจัง เพื่อจะได้ประสบกับความสำเร็จ และเขาจะเป็นลูกสุนัขที่น่ารักของคุณตลอดไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น